08 กรกฎาคม, 2554

อย่าให้ "บิ๊กอายส์" ทำลายตา


อยากสวยแบ๊วแบบหนุ่มสาวเกาหลี "บิ๊กอายส์" จึงขายดิบขายดีและมีราคาถูกมากจนน่าใจหายอันตรายคืบคลานเข้าใกล้ตาแต่พวกเรายังชะล่าใจ
          ดังที่ว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" มัน จึงเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อวัยวะชิ้นนี้มีกลไกการทำ งานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน เป็นระบบประสาทที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับประสาทรับความ รู้สึกอื่นๆ

          แต่ตราบใดที่เรายังมองเห็นได้ดี ไม่มีโรคตามมากวดหัวใจ เราจึงมักละเลยที่จะดูแลรักษาให้ตาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีให้นานที่สุด แถมยังใช้สายตาไม่ถูกต้องด้วย จึงทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงเรื่อยๆ แต่พวกเราไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้กระแส "ตาแบ๊ว" ไม่ใช่แค่แฟชั่นมาประเดี๋ยวก็ไป แต่มันกำลังจะหยั่งรากฝังลึกในดวงตาทุกคู่

          ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล หัวหน้าสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าให้เราฟังว่าในแต่ละปี เยาวชนใส่คอนแทคเลนส์เพิ่มขึ้นจำนวนมากโดยไม่คำนึงเรื่องคุณภาพ และรู้สึกเอาเองว่าใช้ได้เหมือนสินค้าทั่วไป แต่ความจริงแล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ มันต้องทำให้เราใช้สายตาได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเป็นหลัก

          คอนแทคเลนส์สีหรือที่เรียกกันว่า บิ๊กอายส์ นั้นจัดอยู่ในหมวดคอสเมติก ถูกสร้างมาเป็นพิเศษด้วยการใส่เม็ดสีที่สามารถพรางสีม่านตาเดิมให้เป็นสีที่ ต้องการได้ จึงใส่ไม่สบายเท่าคอนแทคเลนส์ชนิดอื่นๆ และเนื่องจากมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงมีอัตราการซึมผ่านของออกซิเจนน้อยกว่า ฉะนั้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย รูม่านตาขยายเกินขอบเขตของช่อง ทำให้การมองเห็นอาจมีประสิทธิภาพด้อยลง

          ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือผลกระทบระยะยาวมากกว่า เพราะการใช้คอนแทคเลนส์สีแบบผิดๆ และใช้สินค้าด้อยคุณภาพ อาจทำให้ติดเชื้อและลุกลามเรื้อรังในหนังตาและสุขภาพกระจกตาเสื่อมก่อนวัย

          คุณนพพร ภัทรรุจี ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าบริษัท ซีบาวิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเสริมว่าคนใส่คอนแทคเลนส์ มีไลฟ์สไตล์ ใช้สายตาอย่างหนักหน่วงมากเกินไป พวกเขาใส่มันนานกว่า 8-10 ชั่วโมงและอยู่กับวัสดุที่ไม่สามารถส่งผ่านออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์กระจก ตาได้เพียงพอ

          จึงเป็นที่มาของภาวะ การขาดออกซิเจนของกระจกตา นำมาซึ่งภาวะกระจกตาชราเกินวัย โดยจะมีอาการตาแดงโดยไม่ทราบสาเหตุระคายเคือง มองเห็นภาพมัว หรือแสงรุ้งรอบดวงไฟ มองภาพไม่ชัดเจน เหมือนสายตาสั้น เพิ่มขึ้นเพราะกระจกตาบวม จนไม่สามารถทนใส่คอนแทคเลนส์ได้นาน หรือไม่ได้เลยในที่สุด

          ฉะนั้น ก่อนที่หนุ่มสาวๆ ทั้งหลายจะ "แอ๊บแบ๊ว" ดร.ดนัยบอกทางป้องกันไว้ว่า ผู้ใส่ต้องมีกฎเหล็ก เมื่อตัดสินใจใส่คอนเทคเลนส์ควรแวะไปให้จักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรวิเคราะห์ ความเหมาะสม หรือข้อจำกัดเฉพาะตัวก่อน เช่น บางคนกระจกตาบางมาก จึงไม่เหมาะกับคนแทคเลนส์ชนิดใดเลย หรือคนที่สายตาเอียงต้องใช้คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น เป็นต้

          เมื่อไร้ปัญหาใดๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่มีการรับรองทางการแพทย์ ครั้นใส่แล้ว ก่อนนอนก็ต้องถอดออก และทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด

          "พยายาม หาวัสดุที่สามารถให้ออกซิเจนผ่านตาได้สูง และอย่าใช้คอนแทคเลนส์ผิดประเภท เช่นรายเดือนก็ต้องใช้เพียงเดือนเดียวแล้วทิ้ง หรืออย่าแลกใส่กับเพื่อน และอย่าเปลี่ยนแบรนด์บ่อยหากใช้ยี่ห้อไหนแล้วดีกับตัวเองก็อย่าเผลอใจไปกับ โปรโมชั่นเจ้าอื่น และถ้าตามีปัญหา ก็อย่าทนให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน" ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตากล่าว

เทคนิคยืดดวงตา

          - สวมแว่นสายตาให้เหมาะสมกับสายตาหากปล่อยทิ้ง คนสายตาสั้นอาจทำให้เกิดตาเหล่ออก คนสายตายาวจะตาเหล่เข้า

          - ใส่แว่นตาเป็นประจำ จะทำให้สายตาคงที่ หรือเปลี่ยนแปลงช้าลง

          - ใช้น้ำยาล้างคราบโปรตีนทุกเดือนไม่เปลี่ยนยี่ห้อน้ำยาล้างบ่อยๆ

          - พักสายตา 5-10 นาทีหลังใช้คอมพิวเตอร์ทุกๆ 1 ชั่วโมง

          - ระยะอ่านหนังสือไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.

          - ห่างจากจอทีวีอย่างน้อย 4 เท่าของขนาดจอ

          หมั่นตรวจสายตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีระยะยาว...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น